วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

จรวดกลักฟิล์ม ทะยานได้ด้วยแรงดันก๊าซ

จรวดกลักฟิล์ม กิจกรรมแบบวิทย์ๆ ที่ส่งเสริมให้เยาวชนสนใจความพิศวงในโลกวิทยาศาสตร์

อุปกรณ์ไม่กี่ชิ้นก็ทดลองทำจรวดกลักฟิล์มได้แล้ว

เด็กๆ ให้ความสนใจกับกิจกรรมนี้ โดยมีวิทยากรคอยดูแลอยู่ข้างๆ ซึ่งจรวดสามารถทะยานสู่ฟ้าได้สูงถึง 3-3.5 เมตรทีเดียว

เมื่อได้มองซ้ายแลขวาในงาน “สัปดาห์อวกาศโลก ธีออส: ดวงตาแห่งชาติ” (World Space Week THEOS:Eyes of Thailand) ซึ่งสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ สทอภ. (GISTDA) ได้ จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานและประโยชน์ของ ดาวเทียม ตลอดจนส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องดาวเทียมธีออส(Thailand Earth Observation Satellite) ซึ่งเป็นดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติดวงแรกของไทยแล้ว

“ผู้จัดการวิทยาศาสตร์” ก็พบว่ามีกิจกรรมแบบวิทย์ๆ ที่น่าสนใจอยู่ตัวหนึ่ง ที่เหมาะแก่การเรียนรู้ของเด็กๆ อย่างมาก จึงขอนำเสนอกิจกรรมวิทย์ๆ ที่ว่านี้เพื่อเป็นน้ำจิ้มให้กับน้องๆ ที่ยังไม่ได้ไปชมงานให้น้ำลายไหลเล่นกันไปก่อนเข้าชมงานจริงด้วยตัวเอง โดยเจ้ากิจกรรมนี้มีชื่อว่า “จรวดกลักฟิลม์”

ทั้งนี้ ทีมงานวารสารคิดส์-สคูลล์ (Kid-School) ผู้นำเกร็ดความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาแปลงให้เป็นการทดลองแสนสนุกได้บรรยายว่า “จรวด ลำน้อยจำลองการปล่อยจรวดขึ้นสู่อวกาศด้วยแรงดันของก๊าซ เพียงเทน้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดา (ผงฟู) ผสมเข้าด้วยกัน ก็จะเกิดปฏิกิริยาเคมีจนได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกลักฟิล์มขึ้นเป็นจำนวน มาก ในที่สุดก๊าซในกลักฟิลม์ก็จะดันจรวดทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า”

คำบรรยายข้างต้นได้อธิบายกลไกการทำงานของเจ้าจรวดกลักฟิลม์ไว้อย่าง เสร็จสรรพแล้ว ซึ่งน้องคนใดสนใจการทดลองนี้แล้วก็ควรทดลองโดยมีผู้ปกครองคอยดูแลอยู่ข้างๆ ด้วย เพราะอาจเกิดอันตรายจากการสัมผัสสารเคมีได้ อย่างไรก็ดี ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ต้องถือโอกาสนี้เชิญชวนเด็กๆ และเยาวชน จูงมือคุณพ่อคุณแม่มาชมงานกันอย่างพร้อมหน้ากัน รับรองว่าน้องๆ จะไม่ผิดหวังเลยทีเดียว

ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th


Play Spiderman Games
Bob The Builder Games
Cheats For All Zoo Tycoon Games
Crossword Puzzle Games
Free Cell Phone Games For Sprint
Free Disney Games
Free Online Baseball Games
Girl Dress Up Games
Mario Bros Free Games
Old Games Download

เขาเอาอากาศมาทำน้ำขายกันแล้ว

เครื่องดึงอากาศมาผลิตน้ำจากอเมริกา เครื่องนี้เขาโฆษณาว่ารสชาติเหมือนน้ำฝน

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
เครื่องผลิตน้ำจากอากาศ DragonFly จากสิงคโปร์รุ่นทำได้ทั้งน้ำเย็นและน้ำอุ่น

เครื่องกรองน้ำจากสิงคโปร์อีกรุ่นที่ผลิตได้เฉพาะน้ำเย็น


มร.อัมรอนและเครื่องกรองอากาศเป็น้ำจากอเมริกา

เครื่องกรองน้ำที่จะเริ่มขายในไทยปีหน้า

เราทราบกันดีว่าในอากาศนั้นมีน้ำอยู่มากมาย สังเกตได้จากหยดน้ำที่เกาะตามแก้วน้ำหรือฝ้าตามกระจก ซึ่งเป็นผลจากการกลั่นตัวของไอน้ำในอากาศนั่นเอง แหล่งน้ำที่อยู่รอบตัวนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการผลิตน้ำดื่มเพื่อ ทดแทนการขาดแคลนแหล่งน้ำที่สะอาด ซึ่งต่อไปการดื่มน้ำจากอากาศอาจกลายเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากเริ่มมีเทคโนโลยีการผลิตน้ำจากอากาศกระจายสู่เชิงพาณิชย์มากขึ้น

วันนี้ผู้จัดการวิทยาศาสตร์จะพาไปดูเครื่องผลิตน้ำดื่มด้วยเทคโนโลยี ดังกล่าวว่าปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นำมาจัดแสดงในงานประชุมอะควาเทค เอเชีย 2005 (Aquatech Asia 2005) ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ระหว่างวันที่ 8-9 ต.ค.อันเป็นงานประชุมและนิทรรศการการจัดการทรัพยากรน้ำและเทคโนโลยีบำบัดน้ำ เสียซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับการทำงานของเครื่องผลิตน้ำจากอากาศส่วนใหญ่นั้นมีหลักการคล้าย กันคืออากาศจะถูกดึงผ่านแผ่นกรองที่กรอง จากนั้นไอน้ำจะกลั่นตัวเป็นน้ำและจะผ่านกระบวนการกรองในระดับไมครอนและฆ่า เชื้อโรคโดยส่วนใหญ่จะใช้รังสีอัลตราไวโอเลตหรือยูวี บางบริษัทก็จะผลิตเครื่องที่สามารถทำร้อนและน้ำเย็นได้ในตัว และปริมาณความชื้นในอากาศก็มีผลต่อการผลิตน้ำได้มากหรือน้อย

ตัวอย่างแรกของเครื่องผลิตน้ำจากอากาศมาจากสิงคโปร์ ภายใต้ชื่อทางการค้า “dragonfly” ของบริษัทไฮฟลักซ์ อะควาซัส จำกัด ซึ่งปัจจุบันผลิตเครื่องทำน้ำดื่มออกมา 2 รุ่น รุ่นแรกคือ T16 ซึ่งสามารถผลิตได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น และรุ่น M18 ที่ผลิตได้เฉพาะน้ำเย็น อัตราเฉลี่ยของการผลิตทั้งสองรุ่นอยู่ที่ 1 ลิตรต่อชั่วโมง เครื่องรุ่นแรกเพียง 42,512 บาท และเครื่องรุ่นหลังเพียง 28,512 บาท

เครื่องดึงน้ำจากอากาศอีกตัวอย่างเดินทางไกลมาจากสหรัฐอเมริกา เป็นเครื่องกรองน้ำของบริษัทอะควาเมกเกอร์ (AquaMaker) ซึ่งเครื่องกรองน้ำชื่อเดียวกับบริษัทนี้สามารถผลิตได้ทั้งน้ำเย็นและน้ำ ร้อน โดยสามารถจุน้ำไว้ได้ 40 ลิตร และทุกๆ ชั่วโมงหากไม่มีการใช้น้ำ เครื่องก็จะทำการหมุนเวียนน้ำเพื่อกรองและกำจัดเชื้อในน้ำที่ถูกทิ้งไว้ สำหรับเครื่องกรองน้ำจากเมืองลุงแซมจะมีจอแสดงการทำงานของเครื่องกรองน้ำ ด้วยว่าอยู่ในขั้นตอนใด เช่น อุณหภูมิของน้ำร้อนและน้ำเย็น ค่าความชื้นของอากาศที่จะบอกเป็นเปอร์เซ็นต์ รวมถึงบอกว่ากำลังกรองน้ำอยู่หรือไม่

มร.อัมรอน คันจิ (Imron Khanji) รองประธานการตลาดของอะควาเมกเกอร์กล่าวว่าเทคโนโลยีการผลิตน้ำจากอากาศนั้น เป็นเทคโนโลยีเก่า อีกทั้งเรายังเห็นการกลั่นตัวเป็นหยดน้ำได้ทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่พัฒนาคือความสะอาดของน้ำที่กรองได้ว่าปลอดภัยต่อผู้บริโภคหรือไม่ พร้อมทั้งบอกเล่าว่ามีหลายประเทศที่นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ สำหรับประเทศไทยนั้นเหมาะที่จะไปใช้กับองค์กรใหญ่ๆ เช่น โรงแรมหรือออฟฟิศต่างๆ มากกว่า เนื่องจากราคาเครื่องค่อนข้างสูง อย่างเครื่องอะควาเมกเกอร์ก็มีราคาประมาณ 60,000 บาท

ส่วนตัวอย่างสุดท้ายเป็นเครื่องกรองน้ำที่จะเริ่มวางขายในเมืองไทยปี หน้า ซึ่งนำเข้าโดยบริษัท เอชเทค เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งกรองน้ำด้วยระบบรีเวิร์สออสโมซิสหรืออาร์โอ (reverse osmosis:RO) และฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี กรองน้ำด้วยอัตรา 2 ลิตรต่อชั่วโมงและจุน้ำได้ 15 ลิตร โดยวันหนึ่งสามารถกรองน้ำได้ประมาณ 50 ลิตรต่อวัน ส่วนราคาอยู่ที่ 39,000 บาท ซึ่งคนไทยอาจได้ทดลองใช้ได้ง่ายกว่าตัวอย่างเครื่องกรองที่ยกตัวอย่างไปก่อน หน้านี้

อย่าง ไรก็ดีเช่นเดียวกับที่อัมรอนได้กล่าวไว้เทคโนโลยีการผลิตน้ำจากอากาศไม่ใช่ เรื่องใหม่ แต่การต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์จะทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายและมีทางเลือกมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องสำนึกอยู่เสมอว่าเราต้องไม่ทำลายแหล่งน้ำที่มีอยู่ใน ธรรมชาติ เพราะยังมีอีกหลายชีวิตที่เข้าไม่ถึงทางเลือกใหม่นี้ อีกทั้งทรัพยากรธรรมชาติเป็นของทุกชีวิต ดังนั้นจึงไม่ควรที่ใครคนเดียวจะเอาไปครอบครอง

ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th


Chess Download Games Free
Christmas Word Games
Does Wii Play Gamecube Games
Google Games
Top Pc Games
What Time Is The Ncaa Championship Game
Cool Shooting Games
Dress Up And Makeup Games
Free Funny Games
Free Games For Mac

หมู่บ้านอับแสงฝันติดกระจกยักษ์สะท้อนแดดอุ่นไอไล่ความหนาว

จัตุรัสอิล คูโอเร ดิ วิจาเนลลา

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
เมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา

บ้านอิฐในเมืองน่าพักอาศัย

ภาพจำลองการวางโครงการกระจกให้แสง

บีบีซี – ใครฟังคงนึกว่าถูกอำเข้าให้แล้ว กับเรื่องราวของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในแถบเทือกเขาอัลไพน์ของอิตาลี ที่ร่ำๆ อยากติดตั้งกระจกเงาบานยักษ์ แต่ถ้าสอบถามไปยังปิเอร์ฟรังโก มิดาลิ นายกเทศมนตรีเมืองวิจาเนลลา (Viganella) คุณจะรู้ว่าสิ่งที่ได้ยินมาเป็นเรื่องจริง

จัตุรัสเล็กๆ ที่ชาวบ้านเรียกว่า ‘อิล คูโอเร ดิ วิจาเนลลา’(il cuore di Viganella) หรือหัวใจของวิจาเนลลา คือศูนย์กลางของแผนการกระจกเงาพิลึกพิลั่นนี้ ต้นตอของโจทย์ข้อนี้คือ การที่วิจาเนลลาที่อยู่ติดกับพรมแดนที่ต่อกับสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในจุดที่ลึกที่สุดของเทือกเขาอัลไพน์ ทำให้ส่วนที่อยู่ทางใต้ของเทือกเขาไม่เห็นแม้แต่แสงอาทิตย์เลยตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.จนถึง 2 ก.พ. ของอีกปี

“ยังกับไซบีเรีย แต่อย่าลืมว่าที่นี่คืออิตาลี” หญิงคนหนึ่งบ่น

อย่างไรก็ตาม บริเวณเนินที่ลาดไปสู่ด้านเหนือยังพอได้รับแสงแดดบ้าง แต่ก็เป็นระดับ 200-300 เมตรเหนือหมู่บ้าน และนี่คือที่มาของไอเดียของปิเอร์ฟรังโก มิดาลิ (Pierfranco Midali) ในการติดตั้งกระจกเงาบานยักษ์ไว้ด้านที่ติดกับภูเขา เพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ไปยังจัตุรัสอิล คูโอเร ดิ วิจาเนลลา

นายกเทศมนตรีผู้นี้จริงจังกับแผนการที่ว่า ถึงขนาดว่าจ้างสถาปนิกมาร่างแผนการเรียบร้อย

จิโอโคโม บอนซานี (Giacomo Bonzani) คือสถาปนิกของโครงการนี้ เขาทดลองตั้งกระจกเงาขนาดความกว้างราว 5 เมตรและติดตั้งมอเตอร์ในตัว และพบว่ากระจกบานดังกล่าวสามารถรับแสงอาทิตย์และสะท้อนต่อไปยังจัตุรัสได้

“ใน วันที่อากาศสดใส กระจกบานนี้จะทำให้จัตุรัสได้รับแสงแดด 5 ชั่วโมง แม้แต่ในช่วงกลางเดือนธันวาคม ซึ่งในทางทฤษฎีแล้ว อาจมีหิมะตกในหมู่บ้านนี้ แต่ตราบที่ดวงอาทิตย์ยังปรากฏอยู่เหนือเทือกเขา จัตุรัสวิจาเนลลาก็จะมีทั้งหิมะและแสงแดดในเวลาเดียวกัน”

น่าเสียดายที่แผนการสวยหรูนี้เจอตอต้นเขื่อง เมื่อรัฐบาลท้องถิ่นปฏิเสธที่จะอัดฉีดงบ 100,000 ยูโร (67,542 ปอนด์) หรือประมาณ 4,869,102.78 บาทสำหรับค่าติดตั้งกระจก ชาวบ้านจึงยังต้องฝันค้างกันต่อไป และหนาวนี้ คงไม่มีแสงตะวันสาดส่องวิจาเนลลา

ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th


Free Online Fishing Games
Free Online Multiplayer Game
Games Free Online
Japanese Dress Up Games
The Saddle Club Games
Download Full Xbox Games
Games To Play Now
Play Batman Games Online Free
Pocket Pc Games
1000 Free Flash Games

น้องหนู ม.3 อาสาตอบคำถาม “ทำไมเราถึงเลือกซ้าย-ขวา”

“เอ...จะเลือกซ้ายหรือขวาดีนะ” คุณเคยตั้งคำถามกันบ้างหรือไม่ เวลาที่เราเดินเล่นหรือเดินซื้อของตามห้างสรรพสินค้าบางครั้งเราก็ตัดสินใจ ไม่ถูกว่าจะเลือกไปทางซ้ายหรือทางขวา หรือบางครั้งในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจเปลี่ยนแผนการเดินทางเราจะเลือกไป ทางไหนดี คำถามที่แสดงถึงความสงสัยในพฤติกรรมพื้นฐานของคนนี้ “น้องอร” นักเรียน ม.3 มีคำตอบ

“น้องอร” หรือ ด.ญ.อติพร เทอดโยธิน นักเรียนชั้น ม. 3 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน มีความสนใจในพฤติกรรมการตัดสินใจของคนเราที่จะเลือกเลือกเส้นทางซ้าย – ขวา โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่าโดยปกติคนเรามักจะต้องมีเหตุผลในการวิเคราะห์อย่าง ถี่ถ้วนในการตัดสินใจเลือกใดๆ ก็ตามอยู่เสมอ แต่บางเมื่อเดินมาถึงทางแยกที่จะต้องเลือกระหว่างจะไปซ้ายหรือขวา เราก็จะเลือกทางใดทางหนึ่งอย่างไม่มีเหตุผลเพียงพอ น้องอรจึงอยากทราบว่าอะไรคือปัจจัยของพฤติกรรมดังกล่าว

ทั้งนี้คาดว่าผลการศึกษาการเลือกซ้าย-ขวาของคนเราจะทำให้เกิดการ ประยุกต์ใช้ประโยชน์มากมาย เช่น วางแผนทางเดินและวางตำแหน่งสินค้าในห้างสรรพสินค้า วางระบบการจราจรให้เหมาะสม วางตำแหน่งบันไดหนีไฟและทางออกฉุกเฉินในงานต่างๆ และการออกแบบอุปกรณ์ต่างๆให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของมนุษย์

วิธีการศึกษาของน้องอรคืออาศัยจากการตอบแบบสอบถามและทำการทดลองจริง กับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนซึ่งนักเรียนชั้น ม.1-6 ของโรงเรียนสาธิตฯ ทั้งหมด 142 ต่างให้ความช่วยเหลือมาร่วมทดสอบกับน้องอร โดยมีวิธีทดสอบให้เพื่อนเดินจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง และตั้งเงื่อนไขขึ้นมา 3 กรณีคือ 1.ผู้ร่วมทดลองอยู่ในสถานการณ์ที่เห็นชัดเจนว่าทั้งซ้ายและขวามีระยะจากจุด เริ่มถึงปลายทางเท่ากัน 2.ผู้ร่วมทดลองระยะจากจุดเริ่มจนถึงปลายทางนั้นระหว่างซ้ายหรือขวาที่ไกล กว่ากันเนื่องจากใช้ผ้าม่านกั้นไว้ และ 3.ทดสอบภาวะฉุกเฉินหรือตกใจ

“การ ทดสอบทำได้โดยให้ผู้เข้าทดสอบยืนอยู่ที่จุดจุดหนึ่ง แล้วผู้ควบคุมการทดลองจะแกว่งของที่แขวนลงมาจากเพดาน เข้าใส่ผู้ทดสอบตรงๆ โดยไม่บอกให้ผู้เข้าทดสอบรู้ล่วงหน้า ผลที่ได้คือ ผู้เข้าทดสอบจะตกอยู่ในภาวะฉุกเฉินที่ต้องหลบให้พ้นจากสิ่งของนั้นอย่างรวด เร็ว” น้องอรเล่าและกล่าวว่าผลการทดสอบแต่ละขั้นตอนจะถูกบันทึกไว้เพื่อนำมา วิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลพื้นฐานของผู้เข้าทดสอบ เช่น เพศ วัย ความถนัดซ้าย-ขวาของสมอง และความถนัดซ้าย-ขวาของมือ

ส่วนการการตอบแบบสอบถามนั้น น้องอรได้ตั้งคำถามในแบบสำรวจให้ผู้ตอบเลือกว่าจะตัดสินใจไปทางซ้ายหรือทาง ขวาใน 2 กรณีคือ 1.กรณีที่ผู้ตอบทราบว่าจุดหมายและปลายทางระหว่างทางเลือกซ้ายหรือขวานั้น เท่ากัน และ 2.กรณีที่ตอบไม่ทราบว่าทางซ้ายหรือขวาไกลกว่ากัน ส่วนกรณีที่ผู้ตอบอยู่ในสถานการณ์ตกใจนั้นน้องอรกล่าวว่าไม่สามารถหาข้อมูล มาสร้างคำถามได้จึงถูกตัดออกจากการสำรวจ ทั้งนี้มีนักเรียนในโรงเรียนของน้องอรตั้งแต่ชั้น ม.1-6 ร่วมตอบแบบสำรวจทั้งหมด 716 คน

หลังจากได้ผลการทดลองและผลสำรวจแล้ว น้องอรได้ใช้โปรแกรมสำหรับวิเคราะห์ทางสถิติ SPSS (Statistical Package for Social Science) ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก ผศ.ดร.วิวัฒน์ เรืองเลิศปัญญากุล อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งเป็นอาจารย์พี่เลี้ยงจากโครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีสำหรับเด็กและเยาวชนหรือเจเอสทีพี (JSTP) ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

จาก การทดลองพบอีกว่าคนส่วนใหญ่นิยมเลือกทางขวามากกว่าทางซ้ายในอัตราส่วนประมาณ 6:4 ยกเว้นกรณีเมื่ออยู่ในภาวะฉุกเฉินหรือตกใจ กลับมีปฏิกิริยาที่จะหลบไปทางขวาน้อยกว่าทางซ้ายด้วยสัดส่วน 4:6 และจากการหาความสัมพันธ์ระหว่างการตัดสินใจและตัวแปรอิสระ เช่น เพศ อายุ และความถนัดซ้าย-ขวาของสมองและมือ พบว่ากรณีที่คนเราต้องตัดสินใจเลือกซ้ายขวาขณะตกใจนั้นจะขึ้นอยู่กับอายุ โดยพบว่าอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไปจะเลือกไปทางซ้ายมากกว่า และกรณีที่ไม่ทราบว่าระยะทางจากจุดใดจะไปถึงปลายทางเร็วกว่ากัน พบว่ามีความสัมพันธ์กับความถนัดซ้าย-ขวาของมือ นั่นคือคนที่ถนัดซ้ายจะเลือกไปทางซ้าย ส่วนคนที่ถนัดขวาจะเลือกไปทางขวา และยังพบข้อสังเกตอย่างชัดเจนว่าในทุกเงื่อนไขคนอายุ 12 ปีจะเลือกไปทางซ้ายถึง 54 เปอร์เซ็นต์

น้องอรเล่าว่าใช้เวลาศึกษาเรื่องนี้ 8-9 เดือนมาตั้งแต่ ม.2 พร้อมทั้งเล่าว่าในการทดลองก็อุปสรรคต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะเรื่องเวลาที่เป็นปัญหามาก เพราะจะต้องศึกษาให้เสร็จก่อนสอบปลายภาคในภาคการศึกษาที่ผ่านมา และยังมีปัญหาเรื่องความยากในการหาโปรแกรมวิเคราะห์ที่เหมาะสมกับแบบสำรวจ ที่มีคนตอบกว่า 700 ชุด และมีคำถามมากถึง 16 ข้อ แต่ก็รับความช่วยจากอาจารย์พี่เลี้ยง และความช่วยเหลือจากอาจารย์วิทยาศาสตร์ที่โรงเรียนในการทดลองจำลองสถานการณ์ กับนักเรียนกว่า 200 คน

“น้อง อรโชคดีที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทางโรงเรียน จากท่านผู้อำนวยการ ที่อนุญาตให้ใช้ห้องเรียนจำนวน 6 ห้องเป็นห้องทดสอบ และมีอาจารย์แอนดรูว ธอมป์สัน (Andrew Thompson) ซึ่งเป็นอาจารย์วิชาวิทยาศาสตร์ ให้การสนับสนุนการทดลองจริง อีกทั้งช่วยจัดห้องทดลองและดูแลนักเรียน”

สำหรับอนาคตนั้นน้องอรได้กำหนดตัวเลือกให้กับชีวิตของตัวเองขึ้นมา 3 ทางนั่นคือการเป็นกุมารแพทย์ แพทย์นักวิจัยหรือนักวิชาการทางด้านวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้น้องอรจะได้รับการสนับสนุนจากโครงการเจเอสทีพีให้ศึกษาต่อจนจบระดับ ปริญญาเอกในประเทศโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ และแม้ว่าน้องอรจะเป็นลูกโทน แต่ครอบครัวก็ไม่คาดหวังอะไรเป็นพิเศษกับลูกสาวคนเดียวของบ้านคนนี้

“คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้คาดหวังอะไรกับน้องอรเป็นพิเศษ ท่านเพียงแต่อยากให้น้องอรโตขึ้นเป็นคนดี เป็นคนมีคุณค่าและมีความสุข” น้องอรกล่าวอย่างอารมณ์ดี แต่ถึงอย่างนั้นน้องอรก็ได้ทำพ่อกับแม่ภูมิใจด้วยการสอบผ่านในโครงการ โอลิมปิกวิชาการสาขาคณิตศาสตร์ซึ่งจะมีการคัดตัวต่อไป และเมื่อครั้งเรียนอยู่ ป.6 น้องอรก็สามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับประเทศของสถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) มาได้

เห็น เยาวชนไทยมีความสามารถและยึดถือในเหตุและผลอย่างนี้ ผู้จัดการวิทยาศาสตร์ก็อดชื่นชมไม่ได้ และหวังว่าเยาวชนคนอื่นๆ จะได้รับการสนับสนุนให้ได้แสดงออกในทางที่ดีอย่างนี้บ้าง

ขอบคุณแหล่งที่มา/http://www.manager.co.th


Party Games For Consultants
Play Pool Games
Free Full Versions Of Pc Games
Free Math Games
Free Sims Games Online
Massive Multiplayer Online Games
Naughty Flash Games
Truck Racing Games Online
Ben 10 Free Games
Flash Helicopter Game

ความรักไม่ช่วยให้อยู่กันยืด อยู่ไม่ทันถือไม้เท้ายอดทองกันมากตั้งครึ่ง

ความรักไม่ช่วยให้อยู่กันยืด อยู่ไม่ทันถือไม้เท้ายอดทองกันมากตั้งครึ่ง

Pic_23169

นักวิจัยมหาวิทยาลัยแห่งชาติเมืองจิงโจ้ พบเคล็ดของการครองเรือนว่า ความรักไม่ใช่ของสำคัญของการครองรักกันให้ยืด...

นัก วิจัยมหาวิทยาลัยแห่งชาติเมืองจิงโจ้ พบเคล็ดของการครองเรือนว่า ความรักไม่ใช่ของสำคัญของการครองรักกันให้ยืด นอกจากนั้น อายุความสัมพันธ์ แต่แรกเริ่มและการสูบบุหรี่ยังอาจจะเป็นอุปสรรคขึ้นมาได้

คณะนัก วิจัยได้ทำการวิจัย โดยเฝ้าติดตามดูคู่สมรสรวม 25,000 คู่ มาเป็นเวลานาน ติดต่อกันถึง 6 ปี พบว่าเงินนับว่ามีความสำคัญมากในการทดสอบว่าทั้งคู่จะทนอยู่ ด้วยกันได้นานสักแค่ไหน รายงานยังส่อให้รู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นคู่สมรสหรือคู่ที่อยู่กินกันเฉยๆ ประมาณหนึ่งใน 4 จะมีโอกาสแตกแยกกันภายใน 6 ปี และอีกตั้งเกือบครึ่งต่อครึ่ง อาจอยู่กันได้ นานไม่เกิน 25 ปี คู่ไหนที่สามีมีอายุแก่กว่าภริยาเกิน 9 ปีขึ้นไป มีหวังจะต้องเลิกร้างกันยิ่งกว่าคู่ที่สามีเข้าหอมาก่อนที่ตนเองจะมีอายุได้ 25 ปี ถึง 2 เท่า นอกจากนั้น ความลุ่มหลงในสุราและบุหรี่ของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ก็อาจทำให้ ชีวิตสมรสพังลงได้.


ขอบคุณแหล่งที่มา/www.thairath.co.th/



Max And Ruby Games
Naruto Free Online Games
Play Free Trivia Games
Pokemon Ruby Game Cheats
Where Can I Play Trivia Games Online
Books Of The Bible Games
Bridal Shower Games Free To Print
Download Games For Phones
Free Downloadable Pinball Games
Free Online Childrens Games

Thank you

prisongdovgde